Migration between Regions

ภายในขอบเขตของการเข้าถึง environment regions ที่หลากหลายการเลือกตำแหน่งที่เลือกเมื่อเริ่มต้นโปรเจกต์สามารถเปลี่ยนได้อย่างง่ายดาย โดยใช้ตัวเลือกการย้ายข้อมูล (เห็นได้ชัดว่าคุณมีสิทธิ์ในการเข้าถึงภูมิภาคของ environment หลายแห่ง) แสดงถึงเครื่องมือที่ทรงพลังที่สามารถช่วยให้คุณได้รับประโยชน์ทั้งในด้านต้นทุนและประสิทธิภาพการทำงาน ตัวอย่างเช่น คุณสามารถเลือกฮาร์ดแวร์ที่ถูกกว่าสำหรับขั้นตอนการพัฒนา/ทดสอบ จากนั้นย้ายแอปพลิเคชันที่พร้อมสำหรับการผลิตไปยังฮาร์ดแวร์ที่มีพารามิเตอร์ที่ดีที่สุดเพื่อวางจำหน่าย

หมายเหตุ: ความพร้อมในการให้บริการตัวเลือกการย้ายข้อมูล รวมถึงการอนุญาตสำหรับแต่ละภูมิภาคของ environment จะขึ้นอยู่กับการตั้งค่าของผู้ให้บริการโฮสติ้ง

ดังนั้นการย้าย environment ที่มีอยู่ไปยังภูมิภาคฮาร์ดแวร์อื่น สามารถดำเนินการได้โดย:

  • คลิกที่ปุ่ม Settings ที่อยู่ถัดจาก enviornment ที่ต้องการและเลือกตัวเลือก Migration
เฟรมนี้จะแสดงภูมิภาคของ environment ปัจจุบันและภูมิภาคอื่นที่ต้องการ เช่น ฮาร์ดแวร์ที่ควรย้ายข้อมูลไป

หมายเหตุ:
นโยบายการกำหนดราคาในภูมิภาคต่างๆ อาจแตกต่างกันไปตามพารามิเตอร์และจะนำไปใช้โดยอัตโนมัติหลังจากการย้ายตำแหน่งเสร็จสิ้น ดังนั้นจึงแนะนำให้ดูรายละเอียดค่าใช้จ่าย – โดยข้อมูลของค่าใช้จ่ายแตะละภูมิภาคสามารถดูได้โดยคลิกที่ Pricing ลิงก์ด้านล่าง Select a Region

แท็บ Live Migration จะสามารถสลับ ON/OFF ได้ขึ้นอยู่กับ target region ที่เลือกในที่นี้คุณสามารถกำหนดประเภทการย้ายข้อมูลได้ว่าควรใช้ประเภทใด (จากสองประเภทที่จัดเตรียมไว้):

  • live migration – ใช้ได้เฉพาะภูมิภาคที่มีป้าย LM กำกับในรายการ (ขึ้นอยู่กับตำแหน่งทางกายภาพของฮาร์ดแวร์ของภูมิภาคนั้นๆ)
  • offline migration – สามารถใช้ได้กับทุกภูมิภาคของ environment

ระบุเงื่อนไขที่จำเป็นทั้งหมดแล้วคลิกปุ่ม Verify & Migrate ที่ด้านล่างเพื่อย้ายตำแหน่งที่ตั้ง จากนั้นจะมีป๊อปอัพเพื่อยืนยันการดำเนินการ

เมื่อทำการ Migration เสร็จสมบูรณ์จะมีข้อความปรากฏที่แดชบอร์ดและแท็กกำกับภูมิภาคถัดจาก environment จะเปลี่ยนไป นอกจากนี้คุณจะได้รับอีเมลแจ้งเตือนพร้อมกับรายละเอียดการย้ายข้อมูล (เช่น ช่วงระยะเวลาสำหรับทุกคอนเทนเนอร์และการเปลี่ยนแปลงใดๆที่เกิดขึ้นกับพารามิเตอร์ผ่านกระบวนการนี้)

ด้านล่างนี้จะอธิบายโหมดของ Migration ทั้งสองโดยละเอียด

Live Migration

ภายในตัวเลือกรายการ Target region คุณจะเห็นป้ายกำกับ LM แสดงถัดจากภูมิภาคนั้นๆ – ซึ่งใช้เพื่อทำเครื่องหมายว่า live migration พร้อมใช้งาน

เมื่อเลือกภูมิภาคแบบ live migration ตัวสลับ ON จะปรากฏด้านล่าง (จะเปิดใช้งานโดยค่าเริ่มต้น)

หากเลือกการย้ายประเภทนี้ Environment จะถูกดำเนินการโดยปริยาย กล่าวคือไม่ต้องรีสตาร์ทคอนเทนเนอร์และไม่จำเป็นต้องกำหนดค่าเพิ่มเติมใดๆ ดังนั้นแอปของคุณจะไม่เกิดการหยุดชะงัก

เพิ่มเติม: ในกรณีทีมี high load (คำขอที่เข้ามาจำนวนมาก) จะหยุดทำงานชั่วคราว downtime (ประมาณ 10 วินาที) โดยแสดงข้อผิดพลาด 502 – environment หยุดทำงาน อย่างไรก็ตามเมื่อถ่ายโอนข้อมูลสำเร็จข้อมูลจะกลับมาทำงานต่อโดยอัตโนมัติ

หากต้องการโหมด offline ด้วยเหตุผลบางประการ – เพียงแค่ปิดสวิตซ์ที่เกี่ยวข้อง

ในกรณีดังกล่าว environment ที่มีคอนเทนเนอร์ทั้งหมดอยู่ในนั้นจะไม่สามารถใช้งานได้สำหรับกระบวนการย้ายทั้งหมดและจะกลับมาทำงานได้ตามปกติ โดยไม่จำเป็นต้องปรับเปลี่ยนด้วยตนเองเพิ่มเติม

Offline Migration

เมื่อการย้ายแบบ live migration ไม่พร้อมใช้งาน (เนื่องจากการย้าย environment ไปยัง data center อื่น) หรือในกรณีที่ปิดใช้งานด้วยตนเอง offline mode จะถูกใช้งาน ในระหว่างการย้ายที่ตั้งดังกล่าว environment จะถูกปิด shut down จนกว่าจะสิ้นสุดกระบวนการนี้

นอกจากนี้หากประเภทของ migration มีประเภทเดียว การตั้งค่า environment บางอย่างเช่น IP addresses ของ nodes และชื่อโดเมนที่กำหนดจะมีการเปลี่ยนแปลง ดังนั้นหลังจากการย้ายเสร็จสิ้นอาจต้องมีการกำหนดค่าด้วยตนเองบางอย่างเพื่อกู้คืนการทำงานของแอปพลิเคชันที่ย้าย – ข้อมูลที่จำเป็นทั้งหมดจะถูกส่งให้คุณเพิ่มเติมทางอีเมล

อย่างเห็นได้ชัดว่า จากข้อดีแลัข้อเสียที่กล่าวข้างต้นการย้ายแบบ live migration เป็นทางเลือกที่ดีกว่า (หากมี)