คุณสามารถเลือกเวอร์ชันของแอปพลิเคชันเซิร์ฟเวอร์ NodeJS และตัวจัดการ process manager ได้ เวอร์ชันที่รองรับมีดังนี้:
- 12.22.7
- 14.20.0
- 16.17.0
- 17.9.1
วิธีการสร้าง environment Node.js
1. คลิกปุ่ม New Environment ด้านบนของแดชบอร์ด
2. เลือกภาษา Node.js และเลือกเวอร์ชันเซิร์ฟเวอร์ที่คุณต้องการโดยคลิกปุ่มรายการดรอปดาวน์:
3. เลือก Process Manager ที่คุณต้องการใช้งาน (forever, npm, pm2, supervisor) ตามรูปภาพด้านล่าง:
Process Manager ของ Node.js จะช่วยควบคุม application lifecycle ของคุณ ซึ่งเป็นวิธีที่ง่ายสำหรับการ start, stop และ restart process นอกจากนี้ยังสามารถกำหนดค่าให้รันสคริปต์ใหม่โดยอัตโนมัติในกรณีที่ start แอปพลิเคชันใหม่, แอปพลิเคชันล้มเหลวหรือมีการอัปเดตโค้ด:
- supervisor – ตรวจสอบการเปลี่ยนแปลงโค้ด สคริปต์ .js ให้อัปเดตเสมอ
- npm – จัดการแอปพลิเคชันโมดูลและแพ็กเกจเพิ่มเติมผ่านไฟล์ package.json
- forever – จัดการ node processes (เช่น service start, stop, restart) เพื่อให้ service ต่างๆรันอย่างต่อเนื่อง
- pm2 – จัดการแอปพลิเคชันได้อย่างมีประสิทธิภาพโดยมีตัวเลือกพิเศษมากมาย (เช่น monitoring, load balancing, deployment และอื่นๆ)
จากนั้นตั้งค่า environment ในส่วนอื่นๆ (เช่น ระบุจำนวน cloudlets, region และชื่อ environment) แล้วคลิกปุ่ม Create
วิธีการเปลี่ยนเวอร์ชัน Node.js
ในส่วนของ environment ที่มีอยู่คุณสามารเปลี่ยนเวอร์ชันของเซิร์ฟเวอร์ NodeJS และ Process Manager ได้สองวิธีดังนี้:
1. คลิกปุ่ม Change Environment Topology
- ในหน้า Topology wizard คลิกที่ไอคอนรูปดินสอเพื่อเปลี่ยนเวอร์ชัน
2. คลิกปุ่ม Redeploy Containers
- ในหน้า Redeploy Container(s) ประกอบด้วยตัวเลือกต่อไปนี้
- Tag – ตัวเลือกเวอร์ชัน NodeJS และ Process Manager
- Keep volumes data – อนุญาตให้บันทึกข้อมูลของคุณใน volumes
- Simultaneous หรือ Sequential deployment with delay (สำหรับการปรับขนาดเซิร์ฟเวอร์เท่านั้น) – กำหนดให้คอนเทนเนอร์ดำเนินการ redeploy ทั้งหมดพร้อมกันหรือ redeploy ทีละโหนดเพื่อหลีกเลี่ยง downtime
- คลิกปุ่มดรอปดาวน์และเลือกเวอร์ชันที่คุณต้องการ
3. คลิกปุ่ม Yes เพื่อยืนยันการเปลี่ยนเวอร์ชัน